บทความ

ไม่เคยฝึกสมาธิเลย สามารถฝึกปราณวิถีได้หรือไม่

รูปภาพ
  หลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับการฝึกปราณวิถี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝึกสมาธิในแบบพุทธหรือไม่ จนกระทั่งมีผู้สอบถามเข้ามาว่า "ไม่เคยมีพื้นฐานการฝึกสมาธิเลย สามารถฝึกปราณได้ไหม" ก่อนอื่นต้องขออธิบายให้เข้าใจก่อนนะครับว่า คำว่า "สมาธิ" นั้น หมายถึงการมีจิตตั้งมั่น จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังนั้น การฝึกสมาธิบนโลกนี้มีหลายรูปแบบ บ้างเป็นการท่องบ่นคำสวด คำภาวนา หรือโศลกเพื่อให้เกิดสมาธิตั้งมั่น หรือการร้องเพลงประสานเสียง หรือกิจกรรมอื่นใดก็ตาม เช่น สมาธิในการอ่านหนังสือ เป็นต้น ดังนั้น ความเข้าใจของคนไทยเกี่ยวกับคำว่า "นั่งสมาธิ" คือกระบวนการฝึกจิตในรูปแบบของศาสนา เพื่อขัดเกลาจิตใจ เพื่อเข้าใจกรรมฐาน เพื่อระลึกถึงพระรัตนตรัยและหลักคำสอน เพื่อการหลุดพ้นตามเป้าหมายของศาสนาเช่นกัน  แต่ในมุมมองของการฝึกปราณ จะมุ่งเน้นเป้าหมายไปที่ความสำเร็จของสุขภาพร่างกาย การเข้าใจระดับจิตวิญญาณผสานกับพลังงานบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะเหลือน้อยลงไปแล้วก็ตามนะครับ เรียกได้ว่าเป็นการฝึกนอกศาสนาเสียทีเดียวก็อาจจะบางส่วน เพราะในสายของพลังจักระ นักบวชมหายานนิกายตันตระก็ให้ความ...

ตัวอย่างคาถานอร์สโบราณ

รูปภาพ
ตัวอย่างคาถานอร์สโบราณที่พอจะสืบค้นบันทึกข้อมูลได้บ้าง จะเลือกใช้หรือศึกษาอย่างไร โปรดใช้วิจารณญาณ 1. คาถาเชิญครูวิทการ์ (ในการประกอบพิธี) คาถานอร์สโบราณจากกัลตราบ๊ก Galdrabók หนังสือเวทมนตร์ของไอซ์แลนด์ (ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 16–17) Ég kalla á þig, þér máttugur galdramaðr, vernd þú mér gegn óvinum og illu valdi. (เย็ก คัลลา เอา ธิก, แธร์ มัตตูเกอร์ กาลดรามาทร์, เวิร์นด์ ธู เมร์ เก็ก ออวินุม เอาก์ อิลลู วัลดิ) ข้าขอเรียกท่าน พ่อมดผู้ทรงพลัง โปรดคุ้มครองข้าจากศัตรูและอำนาจชั่วร้าย 2. บทสวดจาก Hávamál (Poetic Edda) วรรณกรรมสำคัญของชาวนอร์ส Ár var alda, þat er ekki var, vara sandr né sær né svalar unnir, jörð fannsk æva né upphiminn, gap var Ginnunga, en gras hvergi. (อาร์ วาร์ อัลดา, ธัท แอร์ เอกกิ วาร์, วารา ซันด์ เน ซาเออร์ เน ซวาลาร์ อุนเนียร์, เยิร์ธ ฟานสค์ แอวา เน อุปฮิมินน์, กัป วาร์ กินนุงกา, เอน กราส เฮวรกิ) เมื่อครั้งบรรพกาล ยังไม่มีสิ่งใด ไม่มีทราย ไม่มีทะเล ไม่มีคลื่น ไม่มีผืนดิน ไม่มีฟ้า มีเพียงความว่างเปล่าแห่ง Ginnungagap (กินนุนกากับ) 3. คำสาบานนักรบผู้ใช้เวทมนตร์รู...

คาถาโบราณและพิธีกรรมนอร์ส

รูปภาพ
คาถาโบราณและพิธีกรรมนอร์ส      มีบันทึกหลงเหลือเกี่ยวกับคาถานอร์สโบราณอยู่บ้าง แต่พบว่าเป็นลักษณะวลีเก่าแก่ หรือประโยคคำพูดคล้ายของคนโบราณ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวลีศักดิ์สิทธิ์ หากนำมาร่ายพร้อมกันในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์จะช่วยเพิ่มความขลัง แต่ในมุมของนักมายาศาสตร์ยุคใหม่ อาจมองว่ามีขีดจำกัดทางด้านภาษาร่วมอยู่ด้วย ดังนั้น ผู้เขียนพอจะยกตัวอย่างมาเป็นวิทยาทานได้บ้าง แต่หากใครสนใจเพิ่มเติม อาจจะต้องค้นคว้าด้วยตัวเองต่อไป อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจในเวทมนตร์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากคุณต้องการฝึกให้สำเร็จ จะต้องเข้าใจมิติพลังงานให้ได้ด้วยตนเอง และการร่ายคาถาที่ดีที่สุด ก็คือการเอ่ยนามอักขระรูนให้ชัด และกำหนดจิตอธิษฐานให้ชัดเจน ยิ่งภาพในหัวชัดเท่าไหร่ สิ่งที่ปรากฏก็จะมากขึ้นเท่านั้น และไม่มีใครการันตีความสำเร็จของคุณได้เท่าตัวคุณเอง และการสร้างเวทมนตร์ในแบบนอร์ส แตกต่างจากของไทย โดยที่คนไทยนิยมการร้องขอและติดสินบน หากอะไรสำเร็จ จะทำบางสิ่งให้ อะไรทำนองนั้น แต่ในศาสตร์เวทมนตร์นอร์ส จะต้องจ่ายด้วยความซื่อสัตย์ คุณธรรม หรือการกระทำบางอย่างอันทรงเกียรติ และต้องทำมันก่อนที่จะใช้เวทมนตร์ ร่วม...

ความหมายพลังและอำนาจของอักขระรูนในเชิงการร่ายเวทมนตร์

รูปภาพ
ความหมายพลังและอำนาจของอักขระรูนในเชิงการร่ายเวทมนตร์  มีคำอธิษฐานโบราณที่ถอดความไว้ให้เป็นแนวทาง ไม่จำเป็นต้องร่ายด้วยคำเหล่านั้นเสมอไป ไม่มีกฎตายตัวอย่างที่บอกไปแล้ว คุณเลือกนำไปใช้ตามที่ใจปรารถนาเถิด ᚠ (เฟฮู) - "Féu gafr, auðr beran!" (Feh-oo gah-vr, aud-thr be-ran) เฟฮู กาฟร์, อูธร์ แบรอน "ทรัพย์สินไหลมา, ความมั่งคั่งข้ามาถึง!" เจตจำนงที่อธิษฐานเพิ่มเติม : 1. เสริมสร้างพลังจิต 2. ช่องทางสำหรับการถ่ายโอนหรือขับพลัง รูนส่งพลัง 3. ดึงพลังที่ฉายออกมาจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว เข้าสู่พื้นโลก 4. ส่งเสริมวิวัฒนาการส่วนบุคคลและสังคม 5. เพิ่มพูนความมั่งคั่งทางการเงินส่วนบุคคล ᚢ (อูรูซ) - "Uruz mik fæðir, máttugr ok sterkr!" (Oo-rooz mik fye-thir, mah-too-gr ok stehrk) อูรุดซ์ มิก เฟดร์, มอทตูก รูค สแตกร์ "พลังแห่งปฐพีหล่อเลี้ยงข้า, แข็งแกร่งและทรงพลัง!" เจตจำนงที่อธิษฐานเพิ่มเติม : 1. การกำหนดและสร้างสรรค์สถานการณ์อย่างสร้างสรรค์ผ่านเจตจำนงและแรงบันดาลใจ 2. การเยียวยาและรักษาสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี 3. ผู้ก่อให้เกิดสถานการณ์อันเป็นมงคล...

วิธีการใช้ไม้ร่ายคาถารูน

รูปภาพ
วิธีการใช้ไม้ร่ายคาถารูน อาจจำแนกไปตามความต้องการของผู้ใช้ โดยหลักแล้วแบ่งออกเป็น 3 วัตถุประสงค์สำคัญ คือ 1. ใช้เพื่อ Empower หรือการให้อำนาจแก่เครื่องรางของขลัง หรือรอยจาร การสลัก เพื่อให้เชื่อมโยงกับพลังงานต้นกำเนิดรูน หรือให้รูนนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น คล้ายกับการปลุกเสกเลขยันต์ในบ้านเรานั่นเอง สำหรับวิธีการให้อำนาจนั้นง่ายมาก ใช้เทคนิคเดียวกับการฝึกสมาธิทรานซ์ คือเพ่งไปที่รอยจารอักขระรูนดังกล่าว แล้วดึงพลังต้นกำเนิดมาประทับใส่รอยจารเหล่านั้น (ไม่ต้องเก็บเข้ากลางหน้าผากเหมือนตอนฝึกตบะนะครับ) ให้พลังถูกจารึกและมีความศักดิ์สิทธิ์แล้วกำหนดจิตอธิษฐานขอพลังของรูนดังกล่าว ซึ่งคำอธิษฐานเป็นไปตามเจตจำนงได้เลย ไม่จำเป็นต้องร่ายตามรูปแบบหรือภาษานอร์ดิกเสมอไป เพราะในระดับความเข้าใจของการฝึกจิต มุ่งเน้นการสร้างจินตภาพเป็นหลัก ความต้องการที่เราอธิษฐานถึงจะเป็นภาษาไทย แต่จินตภาพหรือมโนภาพในหัวของเราเป็นการสื่อสารที่ชัดเจนที่สุด เพียงคุณต้องเอ่ยนามอักขระรูนให้ถูกต้อง กังวาน มีพลัง แล้วบอกกล่าวเจตจำนงลงไปนั่นเอง 2. ใช้เพื่อส่งเวทมนตร์ไปสู่เป้าหมายบา...

การชำระพลังไม้คาถารูน ก่อนและหลังใช้งาน

รูปภาพ
การชำระพลังไม้ก่อนและหลังใช้งาน นักมายาศาสตร์ยุคใหม่จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับพลังงานและธาตุทั้งสี่เสมอ ก่อนใช้ไม้คาถารูน จึงนิยมชำระพลังไม้ด้วยการเสกน้ำประพรมลงไป นำไม้ผ่านควันกำยานหรือควันสมุนไพร แล้วจึงนำมาใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ โดยไม้ที่เลือกนำมาทำไม้คาถาจะมีความเชื่อแตกต่างกันดังต่อไปนี้ 1. ไม้โอ๊ค (Oak) คุณสมบัติหลัก: ความมั่นคง ปกป้อง และพลังชีวิต เวทมนตร์: เสริมความเข้มแข็ง ความอดทน และความยั่งยืนในการทำเวท จิตวิญญาณ: เชื่อมต่อกับเทพแห่งป่าและพลังธรรมชาติ 2. ไม้แอช (Ash) คุณสมบัติหลัก: ความรู้ สติปัญญา และการติดต่อกับโลกวิญญาณ เวทมนตร์: เสริมสติปัญญา การทำนาย และการเชื่อมต่อกับพลังธรรมชาติ จิตวิญญาณ: การเรียนรู้ เปิดจิตสัมผัสในการหยั่งรู้อนาคต 3. ไม้เชอร์รี่ (Cherry) คุณสมบัติหลัก: ความรัก ความอุดมสมบูรณ์ และพลังชีวิต เวทมนตร์: เสริมความรัก ความสัมพันธ์ และโชคลาภ จิตวิญญาณ: สื่อสารกับเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์หรือเทพแห่งดวงดาว 4. ไม้สน (Pine) คุณสมบัติหลัก: การปกป้อง การฟื้นฟู และความยั่งยืน เวทมนตร์: เสริมภูมิคุ้มกันทางจิตวิญญาณ ปกป้องจากพลังลบ จิตวิญญา...

การร่ายด้วยไม้คาถารูน

รูปภาพ
การร่ายด้วยไม้คาถารูน      สำหรับการใช้ไม้คาถารูนนั้น มีหลากหลายที่สามารถยึดโยงเป็นแนวปฏิบัติให้ตนเองได้ โดยการใช้ไม้เพื่อประกอบพิธีกรรมนั้น มีมาตั้งแต่ยุคโบราณก่อนชาวนอร์ส เช่น อียิปต์โบราณ ราว 2,000 ปีก่อนคริสตกาล จนถึง ค.ศ.1000 ค้นพบ Wand of Apotropaic ที่ทำจากงาช้างในพิธีปกป้องเด็กและแม่ ซึ่งงาช้างนี้พบเห็นเป็นสัญลักษณ์เทพหรือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ เพื่อเพิ่มพลังป้องกัน ต่อมาในยุคกรีก-โรมัน ราว 800 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ.400 เช่น Hermes/Mercury ที่ถือ Caduceus หรือคทาที่มีงูพัน อันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ การสื่อสาร หรือจะเป็น Hecate และหมอผีที่ใช้ไม้คาถาในพิธีเรียกวิญญาณและทำ Divination ในส่วนของไม้คาถาในแบบนอร์สนั้น ถูกใช้โดยแม่มดหญิงโวลลา หรือเซธร์มาธ เพื่อใช้ทำนายอนาคต หรือร่ายเวทมนตร์ตามวิชาของสำนักของตนรวมถึงเหล่าวิทกิ (Vitti) ที่ใช้คาถารูนอย่างชาญฉลาด และมีการขุดค้นพบที่ Oseberg ประเทศนอร์เวย์ ราว ค.ศ.834 เป็นไม้คทาเหล็ก (Iron Staff) ในหลุมศพของโวลวา มีหลักฐานเป็นบันทึกว่ามีการใช้งานจริง อีกทั้งการใช้ไม้คาถาไ...

พลังต้นกำเนิดรูนทั้ง 24 อักขระ

รูปภาพ
พลังต้นกำเนิดรูนทั้ง 24 อักขระ      แนวคิดเรื่องของพลังต้นกำเนิดอักษรรูนนี้ ไม่มีบันทึกที่แน่ชัด ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ฝึกฝนแตกต่างกันไป ดังนั้น แนวทางในการฝึกพลังต้นกำเนิดที่ให้ไว้ในพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มนี้ เป็นเพียงข้อสรุปจากประสบการณ์ของผู้เขียนที่ทดลองเรียนรู้เท่านั้น ท่านอาจค้นพบพลังรูนในแบบของท่าน หรือการเข้าถึงเชิงจิตวิญญาณที่แตกต่างกันได้ไม่จำกัดและไม่มีถูกผิด เพราะในอารยธรรมนอร์สโบราณ จะให้ความสำคัญกับไฟและน้ำเป็นปฐม เหตุจากความเชื่อเรื่องการถือกำเนิดตามตำนานดั้งเดิมว่า ทั้งโลกแห่งไฟและโลกแห่งน้ำได้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ขึ้น ตามที่กล่าวในตำรา “อักษรรูน” เล่มแดง หากใครสนใจเรื่องตำนานนอร์สเพิ่มเติมอื่นใดสามารถหาอ่านได้ในบทความทางอินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกัน เพราะตำนานปกรณัมนอร์ส ถูกขีดเขียนตีความออกมามากมาย และในความเชื่อดั้งเดิมของนอร์สโบราณจริง ๆ ไม่มีการกำหนดธาตุทั้ง 4 กำกับรูน แต่เกิดขึ้นจากนักเวทยุคใหม่ที่สร้างขึ้น ราวปลายศตวรรษที่ 19- ต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อใช้ในการพยากรณ์ดวงชะตา และการผสมผสานเวทมนตร์ที่เข้ากันได้ และชุดข้อมูลเหล่านี้ส่งต่อกันมา...

การฝึกทรานซ์ (Trance)

รูปภาพ
(เป็นเพียงภาพประกอบบทความเท่านั้น) การฝึกทรานซ์ (Trance) เรียกเป็นคำไทยว่า การฝึกภวังค์เหนือจิต โดยมีลำดับขึ้นตอน ดังนี้ 1. เตรียมตัวด้วยการทำความสะอาดร่างกายและจิตใจ คุณจะต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้เรียบร้อยก่อนการฝึก เพราะชาวนอร์สโบราณจะอาบน้ำ หรือลงอาบในบ่อศักดิ์สิทธิ์เพื่อชำระร่างกายและจิตใจเบื้องต้น 2. เลือกสถานที่ที่เหมาะสม ควรมีความเงียบสงัด เช่น ป่า ใกล้ลำธาร หรือในบ้านที่เตรียมพร้อม 3. เตรียมไม้คาถาเพื่อใช้ในการโฟกัสพลัง กระดิ่งเพื่อกระตุ้นการฝึก หินรูนเพื่อใช้ในเชิงสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมพลัง 4. ในระบบการฝึกโบราณ ชาวนอร์สจะใช้เสียงและจังหวะเพื่อการเข้าถึงสมาธิและกระตุ้นการทำงานของจิต เช่นการตีกลองแบบซ้ำ ๆ (Rhythmic Drumming) หรือการร้องเพลงในทำนองโบราณ ซ้ำ ๆ ให้ทรงพลัง แต่สำหรับการทรานซ์ในยุคสมัยใหม่ เราใช้การออกเสียงอักขระรูนที่กำลังฝึก มุ่งเน้นการออกเสียงเต็มชัดเจน และมีพลัง สำหรับการเริ่มต้นนั้นให้เริ่มที่ลมหายใจเหมือนการฝึกสมาธิแบบสากล คือหายใจออกผ่อนลมให้หมดกระบังลม (บริเวณท้องน้อย) แล้วดึงลมหายใจเข้าลึก ๆ ให้สุดและให้เต็ม อย่างช้า ไม่ต้องรีบ ขณะที่ดึงลม...

การฝึกตบะรับพลังรูน

รูปภาพ
การฝึกตบะรับพลังรูน      กล่าวกันว่า การฝึกวิชารูน ก็เหมือนกับการฝึกตบะในแบบที่เราเข้าใจ คล้ายกับการเพ่งกสิณอยู่พอสมควร บางตำรามีการแนะนำให้ผู้ฝึกนั้น วาดอักษรรูนลงบนพื้นดิน พื้นผิว หรือกระดาษ แล้วเพ่งมองอักษรเหล่านั้นจนเห็นภาพสะท้อนในมโนภาพชัดเจนขึ้น เมื่อนึกถึงก็สามารถเห็นได้ มองไปในอาการเพียงนึกถึงก็เห็นภาพอักขระนั้นลอยอยู่ได้ หลับตาแล้วนึกถึงก็สามารถเห็นแสงเรืองรองออกมาจากอักขระนั้นได้ นั่นคือการสร้างภาพจำในแบบของนักมายาศาสตร์โบราณ และแน่นอนว่าการฝึกเหล่านี้ต้องมีความขยัน อดทน คล้ายกับการฝึกสมาธิในรูปแบบพื้นฐานสากล ที่ต้องฝึกฝนจนชำนาญและทำให้สำเร็จด้วยระยะเวลา ความสามารถในการเพ่งและสงบจนเกิดมโนภาพชัดเจน หากไม่มีความหมั่นเพียรฝึกฝน ก็จะไม่เห็นผลสำเร็จ และในรูปแบบของการฝึกนั้น จะมุ่งเน้นการฝึกเพ่งอักษรรูน และการเข้าถึงเชิงลึกของจิตวิญญาณหรือที่เรียกว่าทรานซ์ Trance ที่ต้องฝึกควบคู่กันไป แต่ไม่ใช่การทรานซ์แบบโดยบันทึกรูปแบบการฝึกไว้ให้

เวทมนตร์รูนคืออะไร

รูปภาพ
เวทมนตร์รูนคืออะไร      สำหรับคนไทยอาจจะคุ้นชินกับการอักษระขอมโบราณ การร่ายโองการหรือการสวดคาถาเพื่อผลสำเร็จบางอย่าง และคุ้นชินกับเครื่องรางของขลังที่ถูกปลุกเสกเลขยันต์โดยครูบาอาจารย์สายต่าง ๆ ซึ่งนั่นเป็นแนวคิดในด้านการผสมผสานพุทธคุณ หรือจะเรียกว่าพลังอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าที่น้อมนำเอา คุณธรรม อานุภาพ และคุณค่าทางจิตใจ เป็นแรงบันดาลใจในการจัดสร้างเสียส่วนมาก ซึ่งก็อาจจะขัดกับหลักคำสอนดั้งเดิมอยู่พอสมควร เหตุเพราะการผสมผสานเปลี่ยนผ่านศาสนาที่บ้านเรารับเอามาหลากหลายวัฒนธรรม ทั้งพุทธ พราหมณ์ ผี หรือแม้แต่จีนโบราณในบางความเชื่อ หากจะมองในมุมของชาวพุทธที่ศึกษาคำสอนแท้จริง ก็คงเป็นเรื่องผิดสำแดง แต่ถ้ามองในมุมของการสืบทอดตามสายวิชาไสยศาสตร์ ก็คือรากเหง้าดั้งเดิมของบรรพบุรุษไทย ที่มีการรบทัพจับศึก และต้องพึ่งพาคุณไสย ในลักษณะของไสยขาว เพื่อการป้องกัน รักษา หรือคงกระพันชาตรี โดยที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุดก็คือพระสงฆ์ นับแต่ยุคโบราณกาล เรียกสงฆ์เหล่านั้นว่า “พระเกจิอาจารย์” คือพระสงฆ์ที่นอกจากจะปฏิบัติตามกิจของสงฆ์สาวกแล้ว ยังร่ำเรียนวิชาและกรรมฐานรูปแบบเฉพาะนั่นเอง ท...

พื้นฐานการฝึกเวทมนตร์

รูปภาพ
พื้นฐานการฝึกเวทมนตร์      ในความเชื่อพื้นฐานเรื่องการฝึกเวทมนตร์นับแต่อดีตกาล ถูกกล่าวถึงโดยนักบวช ผู้นำศาสนา/ลัทธิ เจ้าพิธีกรรม ผู้นำชาวบ้าน รวมไปถึงนักปรัชญา นักมายาศาสตร์โบราณ ว่าจะต้องมีการฝึกจิตเป็นสิ่งสำคัญ ในความเชื่อดั้งเดิมยุคโบราณ กล่าวกันว่า ธรรมชาติและพลังงานเป็นความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่อง และแน่นอนว่า พลังงานชีวิตของทุกสรรพสิ่ง จะถูกดูดซับหมดไปตามความเจริญทางวัตถุ การที่ธรรมชาติถูกทำลาย อนุภาคที่เชื่อว่าเป็นประจุหรือประแจสำคัญในการเป็นต้นกำเนิดของเวทมนตร์ จึงสูญหายไปมาก แนวคิดนี้เปรียบเทียบได้ว่า คนในยุคโบราณ มีโอกาสเก็บเกี่ยวหรือหยิบยืมอนุภาคเหล่านั้นมาใช้มากกว่าคนในยุคปัจจุบัน และพื้นฐานของการฝึกจิตในรูปแบบของสมาธิ หรือการฝึกฝนกายไปพร้อมจิตในรูปแบบของการเข้าถึงจิตวิญญาณของคนปัจจุบันก็ไม่สามารถเทียบเท่าคนในอดีตได้ จะด้วยเหตุผลทางพลังธรรมชาติ หรือความหมั่นเพียรต่อเนื่องก็ตามที เพราะโลกในยุคปัจจุบันทุกคนต้องทำงาน ต้องสร้างครอบครัว ต้องหารายได้เป็นกำลังขับเคลื่อนในการดำรงชีวิต ต่างกับผู้ฝึกตนยุคโบราณ...

เวทมนตร์มีจริงหรือไม่

รูปภาพ
       เชื่อว่าคำถามนี้ติดอยู่ในใจของผู้ที่ชื่นชอบความลี้ลับ หรือสิ่งที่อยู่เหนือการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์พอสมควร และถึงแม้คำว่า “เวทมนตร์” จะอยู่นอกกรอบในเชิงการวิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล แต่หลายอารยธรรมบนโลก ก็ใช้เวทมนตร์เป็นส่วนประกอบพื้นฐานของความเชื่อ ศรัทธา หรือแม้กระทั่งเป็นรากฐานขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดต่อเนื่องกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นข้อโต้แย้งของกลุ่มแนวคิดที่แตกต่างกัน กลุ่มที่ไม่เชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติ ก็จะมองว่าเป็นความงมงาย ไร้สาระ ในกลุ่มที่เชื่อมั่นตำนานกล่าวขานที่สอดแทรกในตัวบทศาสนา ก็จะเชื่อมั่นในปาฏิหาริย์ที่อาจเกิดขึ้นได้ หากเข้าถึง เข้าใจ และฝึกบำเพ็ญ และแทบจะทุกศาสนาบนโลกก็จะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติให้แนบชิดกับผู้นับถือ ยกตัวอย่างเช่น ศาสนาพุทธกล่าวถึงเรื่องเทวดา นรก สวรรค์ และปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้า, ศาสนาคริสต์ กล่าวถึงพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ปาฏิหาริย์ของพระเยซู เหล่าเทวทูตและซาตาน, ศาสนาอิสลาม กล่าวถึงพระอัลลอฮ์ผู้ทรงอำนาจ มลาอิกะฮ์ (เทวทูต) และญิน, ศาสนาฮินดู กล่าวถึงเทพเจ้าอวตาร พลังแห่งจักรวาลหรือปรมาตมัน พิธีกรรมอาร...