เลี้ยงกระรอกน้อยและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ บันทึกแห่งความห่วงใย #สายทาส cutie
เลี้ยงกระรอกและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
เป็นอีกหนึ่งบทความที่บอกเลยนะครับว่า พอเปิดมาดูคลิป และภาพเก่า ๆ ของน้องแล้ว คิดถึงเป็นที่สุด วันนี้ที่ผมบันทึกบทความ เป็นวันที่น้องไม่ได้กลับมาเยี่ยมเช้าเย็นตามปกติแล้ว เหมือนว่าครั้งสุดท้ายที่เจอน้อง อวัยวะเพศมีอาการบวม นั่นหมายความว่า น้องกำลังมีครอบครัว ก็ได้แต่หวังว่า รังใหม่จะทำให้น้องมีความสุข หรือถ้าจะไปขอของกินบ้านใคร ก็ขอให้เจ้าของบ้านใจดีมอบผลไม้ให้น้องเป็นทานต่อไปนะครับ
เจ้ากระรอกเพศเมียสีขาวเทา ชื่อ "เฮอร์ไมล์" เป็นกระรอกที่ผมเลี้ยงตั้งแต่ยังไม่ลืมตา ป้อนนม ป้อนน้ำมาจนโตได้ แต่ด้วยความที่พอย้ายมาอยู่บ้านสวน เห็นน้องอยากออกมาเล่น อยากปีนต้นไม้ แล้วทุกครั้งที่เค้าได้เล่นเค้าจะมีความสุขอยู่กับมันเป็นชั่วโมง ถ้าไม่หิวก็จะไม่ลงมาหาเรา พอเห็นแบบนั้นแล้วคิดว่า น้องอาจจะอยากออกไปอยู่ตามวิถีชีวิตสัตว์ป่า ประกอบกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็จะคอยเป็นหูเป็นตาส่งข่าวตลอดว่า น้องไปเล่นที่บ้านหรือเปล่า ไปขอของกินมั๊ย และพื้นที่ท้ายสวนของผมถัดเข้าไป เป็นป่าครับ ก็สบายใจได้ว่า น้องจะกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อย่างแท้จริง
อีกตัวนึงนี้ชื่อว่า "เจ้ารอน" เป็นกระรอกเพศผู้ ตัวนี้ปราดเปรียวมากครับ มาวันแรกก็วิ่งกระโจนออกไปเล่นเลย และไม่ยอมกลับเข้ากรง ต้องหลอกล่อพักใหญ่ แต่ก็ได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น น้องจะจำเลยว่า เปิดกรงเมื่อไหร่ พ่อจะเผ่นให้ไวที่สุด และก็เป็นเช่นนั้น เจ้ารอนมีความเป็นกระรอกดง และไม่ได้ติดคนเท่าไหร่นัก ผมไม่ได้เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ รับมาตอนโตพอสมควรแล้ว กินนมเองเป็นแล้ว จำได้ว่าป้อนอยู่แค่ไม่กี่ครั้ง และน้องมีความหวาดระแวง กลัวคนมาก น่าจะเพราะถูกจับมาแบบไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
แรก ๆ ที่น้อง ๆ ออกจากกรงไปสู่ธรรมชาติ บอกเลยว่าที่ผมห่วงที่สุดก็คือเจ้าเฮอร์ไมล์ เพราะรักนางมาก และนางจะติดเราอย่างที่สุด แต่ในวันหนึ่งที่น้องอยากออกเล่นตอนเย็น ผมก็ใจดีเปิดให้ออกมาเล่น และน้องไม่ยอมกลับเข้ากรง วิ่งเล่นหายไปในสวนลำใยเพื่อนบ้าน กลับมาอีกทีตอนเช้าเลย นั่นเป็นเหตุการณ์เริ่มต้นที่ทำให้น้องหลงรักในอิสระเสรี เป็นธรรมดานะครับ น้องเป็นสัตว์ป่า การที่ได้กลิ่นดิน กลิ่นต้นไม้ คงเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในชีวิต จะให้มาเป็นกระรอกติดกรง ติดคนตลอดไป ชีวิตก็เหมือนถูกขัง และนี่ก็เป็นความตั้งใจแต่เดิมของผมที่จะปล่อยให้น้องคืนสู่ธรรมชาติ เพราะคิดว่า อย่างไรเสีย น้องต้องมาหาบ่อย ๆ แน่ ๆ แต่เมื่อสังเกตุดูแล้ว พอเค้าเริ่มผสมพันธุ์ เค้าก็จะลืมเราไปทันที หรืออาจจะมาหาแต่ไม่เจอเราหรือเปล่า ผลไม้ที่วางไว้ ก็ไร้การกัดแทะ จึงทำให้ผมมั่นใจแล้วว่า น้องไปใช้ชีวิตของเค้า ตามที่ควรจะเป็นแล้ว
ในช่วงเดือนแรก ๆ ที่น้องออกจากกรงไปสร้างรังเอง บอกเลยว่าเฮอร์ไมล์มอมแมมมาก ขนที่หลุดรุ่ยเพราะวิ่งไล่กวดกับเจ้ารอน (รอนเป็นกระรอกเพศผู้) ครั้นจะนำกลับเข้ากรงก็สงสาร เพราะน้องเองก็ระแวง กลัวโดนขัง เป็นเรา เราก็คงไม่ชอบนะครับ ที่จะถูกขังตลอดเวลา แต่ก็นั่นแหล่ะครับ ที่ทำให้ทุกวันนี้ผมดูคลิปวีดีโอที่ถ่ายรวบรวมไว้ รวมถึงเห็นภาพตอนน้องตัวน้อย ๆ เกาะบ่าเราไปไหนมาไหน ก็ทำให้อดคิดถึงไม่ได้ เจ้ากระรอกตัวน้อย ได้กลับคืนสู่ธรรมชาติอย่างเต็มตัวแล้ว
ทุกครั้งที่น้อง ๆ กลับมาแล้ววิ่งไล่กวดกันตามต้นไม้ มันก็มีความสุขนะครับ แต่ก็ปนความเป็นห่วงกลัวจะไปถูกงูกัดบ้าง กลัวจะไปถูกสุนัขบ้านไหนไล่เอาหรือเปล่า หรือจะถูกแมวตะปบ คิดไปสารพัด แต่นะครับ ชีวิตคนเรา เราจะกักขังสัตว์เลี้ยงไว้ในกรงอย่างเดียวก็เป็นไปได้ยาก ตอนแรกผมคิดว่าจะทำกรงแบบธรรมชาติ คือทำกรงที่ใหญ่ ล้อมต้นไม้ และให้น้องได้วิ่งเล่นได้อย่างเต็มที่ แต่ติดที่ทุนทรัพย์ไม่เพียงพอครับ เลยจำต้องปล่อยน้องเป็นอิสระ สำหรับคลิปการป้อนนม ป้อนกล้วย ผมก็ได้เขียนเล่าให้ฟังไปแล้วในบทความ "สายทาส cutie" ก่อนหน้านี้ ถึงตอนนี้ ที่ผมมาเขียนเล่า พร้อมลงคลิปที่ถ่ายไว้เป็นที่ระลึก คลิปสุดท้ายแล้วที่เจอน้อง ก็ทำให้ใจหายเหมือนกับเวลาที่เราสูญเสียบางสิ่งที่เรารักไป ความเป็นห่วง ก็กลับมาสู่หัวใจผมอีกเช่นเคย "ป่านนี้เจ้าสองตัวจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ"
เรื่องนี้ก็พอจะเล่าสู่กันฟังได้ในวงการคนเลี้ยงกระรอกนะครับว่า เวลาที่เราเลี้ยงและเรารัก เราผูกพันธ์กับสัตว์เลี้ยงมากเพียงใด ความห่วงหา ห่วงใย ก็มีมากเช่นเดียวกัน สำหรับผมแล้ว เจ้ากระรอกน้อย ที่เราเฝ้าพะวงทุกครั้งไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ว่าจะต้องพกไปด้วยทุกครั้งตอนเด็ก ๆ เพราะน้องจะตื่นมากินนมเวลาไหน ก็ต้องคอยป้อน คอยดูแลด้วยการประคบประหงมอย่างดี ยุงไม่เคยให้ไต่ ไรไม่เคยให้ตอม แต่ตอนนี้ น้องไปอยู่ในป่าในสวน จะเป็นตายร้ายดีก็ไม่รู้แล้วครับ เพราะน้องไม่กลับมาหาเหมือนแรก ๆ แล้ว สำหรับใคร ที่เลี้ยงกระรอก แล้วอยากให้เค้าอยู่กับเรานาน ๆ ไปจนเค้าหมดอายุขัย คงต้องจำกัดพื้นที่ และดูแลเค้าอย่างเอาใจใส่ต่อไป และนี่ทำให้ผมรู้สึกเข็ดและไม่อยากที่จะนำน้องมาดูแลอีก เพราะสัตว์เลี้ยงคือบ่วงผูกเรามาก ๆ ลำพังเจ้าหมาน้อยสองตัวที่รับมาเลี้ยงนี่ก็เป็นภาระจริง ๆ ครับ จะไปไหนทำอะไรก็ต้องคอยห่วงเค้า กลัวเค้าจะนั่งรอเรา กลัวเค้าจะไม่เป็นสุข เพราะเค้าติดเราอย่างหนัก ไม่เจอกัน 5 ชม. เหมือนไม่ได้เจอมาเป็นปี แล้วแบบนี้ จะทิ้งได้ลงหรอครับ บทความนี้ออกแนวดราม่าไปสักหน่อย ฝากภาพความน่ารักของน้อง ๆ ไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ สำหรับใครที่คิดจะรับน้องมาเลี้ยง คุณต้องทำใจเตรียมไว้หลาย ๆ อย่างนะครับ เช่น ถ้าน้องออกมาเล่นแล้วหนีไปเที่ยวแล้วไม่กลับ หรือน้องต้องมาประสบเหตุร้ายใด ๆ แล้วเราจะรู้สึกเช่นไร ถ้าไม่เหงาจริงจัง หรือไม่อยากมีภาระ ผมขอแนะนำนะครับว่า "อย่าเอามาเลี้ยงเด็ดขาด" ความคิดถึงและเป็นห่วง มันทำให้เราถอนหายใจอย่างไม่มีความสุขเท่าไรนักหรอกครับ เชื่อผมสิ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น