เมื่อเจ้ากระรอกน้อยย้ายมาอยู่บ้านสวน #สายทาส cutie
กระรอกน้อยย้ายมาอยู่บ้านสวน
วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องของเจ้ากระรอกน้อยจอมซนนะครับ หลังจากที่เราย้ายมาอยู่บ้านสวนที่จังหวัดลำปางก็เป็นไปตามแผนนะครับ คือเดิมทีผมตั้งใจแล้วว่าจะเลี้ยงเขาให้โตแล้วจะพามาอยู่ที่บ้านสวนจังหวัดลำปางแห่งนี้ ตอนแรกตั้งใจว่าจะย้ายมาซักประมาณปี 2566 ถึง 67 แต่ด้วยสถานการณ์โควิชที่ทำให้บริษัททัวร์ที่ผมทำงานประจำต้องหยุดการประกอบการชั่วคราว เส้นก็นั่นแหละครับอย่างที่เราทราบกันดีตอนนี้ก็ปาเข้าไปปีกว่าแล้ว สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด วันนี้ผมบันทึกเรื่องราวเหล่านี้ ก็เข้าใกล้ระยะ 4 เข้าไปทุกที เพราะหลังจากที่มีวัคซีนแจกจ่ายให้กับประชาชนได้ฉีดกัน ทำให้ประชาชนบางส่วน ไม่ระมัดระวังในการใช้ชีวิต สถานการณ์ตอนนี้วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 เชื้อโควิดได้แพร่กระจายเป็นอย่างมาก อาจจะถึงวันละ 10,000 ก็เป็นได้
ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวล ทำให้โครงการบ้านสวนของผมต้องรวบรัดตัดความและย้ายมาอยู่ที่นี่เร็วขึ้น ผมเริ่มต้นก่อสร้างปลูกบ้านหลังเล็กๆ จริงๆแล้วตั้งใจที่จะทำเป็นสำนักงานหรือโกดังเก็บของครับ แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ก็พักอาศัยอยู่ในส่วนของที่เราตั้งใจจะทำเป็นสำนักงานนี้ไปก่อน เมื่อตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่ จึงพาเจ้ากระรอกน้อยตัวแสบมาด้วย อันดับแรกนะครับผมก็พยายามปรับพฤติกรรมของเขา เพราะจากเดิมเขาเคยมีชีวิตอยู่ในคอนโดมิเนียม การมาพบกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ทำให้มีความหวาดระแวงและความกลัวอยู่มาก
แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับการปรับตัว เพราะกระรอกมันเป็นสัตว์ป่า มีสัญชาตญาณในการใช้ชีวิตกับต้นไม้และป่าไม้อยู่แล้ว แรกๆ ที่มาอยู่น้องค่อนข้างจะกลัวเสียงและกลัวสิ่งรอบข้างเป็นอย่างมาก ไม่กล้าที่จะนอนในกรง พอได้ยินเสียงเราก็จะพยายามออกมาหาเราอย่างเดียว เพราะน้องค่อนข้างที่จะติดผมมากพอสมควร ผมเลยต้องใช้เทคนิคคือการเอาผ้าห่มที่มีกลิ่นตัวของผมไปคุ้มครองของน้องไว้แล้ววางไว้ที่หน้าบ้าน ทุกครั้งที่เปิดประตูบ้านออกมาน้องก็จะเห็นผมทันที ฝึกให้น้องนอนกับเสียงนกเสียงธรรมชาติเสียงจิ้งหรีดเรไร ต้องบอกเลยว่าเขาพยายามปรับตัวได้ดีมาก เวลาที่ปล่อยออกมาเล่นก็จะวิ่งกระโดดโลดโผนตามประสา แต่ในคลิปที่ผมถ่ายนี้เป็นช่วงเวลาที่น้องพึ่งย้ายมาใหม่ๆ เพราะฉะนั้นผมจะยังไม่ให้น้องไปอยู่ใกล้กับต้นไม้มากนัก จะวางกรงเอาไว้หน้าประตูบ้านเพื่อปรับพฤติกรรมอีกสักพักนึงก่อนครับ ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะทำโครงใต้ต้นไม้และให้เขาวิ่งขึ้นวิ่งลงต้นไม้ให้ชิน เป็นการค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะตัดสินใจปล่อยให้น้องไปใช้ชีวิตในป่าตามประสาของเขา
วันนี้ก็เป็นความตลกอีกอย่างนึง คือเวลาที่เขาได้ออกจากกรงนอกจากจะวิ่ง ผัวลงไปขาของเรา หรือจะวิ่งพันรอบตัวเราอย่างสนุกสนานพร้อมกับฝากรอยเล็บเอาไว้จนแสบไปหมดทั้งแขนทั้งหลัง เพราะผมจะไม่ค่อยตัดเล็บให้น้องครับ สงสารเมื่อตอนสมัยอยู่ที่คอนโด จะตัดเล็บเขาค่อนข้างบ่อยเพราะเล็บเขายาวเร็วแล้วจะข่วนเราเจ็บมาก แต่เวลาที่น้องกระโดดขึ้นไปเล่นตรงไหนเราสังเกตเลยว่าเขาไม่มีเล็บที่ใช้เกาะจับ ลื่นหล่นลงพื้นบ่อยๆ ก็เลยสงสารครับ ระยะหลังๆ ช่วงที่เลี้ยงคอนโดผมจะหาไม้ท่อนนั้นหาเอาไว้ให้เขารับฟันและรับเว็บของเขาตามธรรมชาติ ในความเป็นจริงเขาก็พยายามที่จะเกาะเราให้เบาที่สุดแล้ว แต่ด้วยธรรมชาติของเขาเวลาที่เขากลัวอะไรสักอย่างเช่น เสียงเคาะกะละมัง เสียงหมาเห่า หรือเสียงประทัดอะไรก็ตาม เขาจะวิ่งเข้าหาเราอย่างรวดเร็วและก็เราแรงมาก เป็นการบอกให้เรารู้ว่าเขากลัว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมห่วงมากที่สุด เพราะกระรอกน้อยตัวนี้ผมเลี้ยงติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ป้อนนมตั้งแต่น้อยๆ และห้อยใส่ถุงติดคอตลอดเวลา แหมเวลาไปทำงานก็ตาม จนเจ้านายแซวหรือว่า นี่โต๊ะทำงานหรือซาฟารีเวิลด์ แต่ก่อนหน้านั้นก็ขออนุญาตเขาเป็นการส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ว่าอะไร เพราะเขาคือพี่สาวของผมเอง ฮ่าๆๆ
วันนี้ก็เลยนำภาพน่ารักๆ ของเจ้าเฮอร์ไมล์ มาฝากกันครับ ปล่อยให้ออกมาวิ่งเล่นแล้วก็คาบเอาผลไม้กระโดดไปนั่งกินบนโต๊ะอาหารของคน พอได้ยินเสียงหมาเห่าเท่านั้นแหละ กระโดดกลับเข้ากรงแทบไม่ทัน หัวโหม่งเอาเข้ากับขอบกรงเต็มๆ แต่ถ่ายไม่ทันจังหวะนั้นนะครับ ก็เลยถ่ายตอนที่น้องอยู่ในกรงแล้วก็กำลังกินผลอโวคาโด้อย่างมีความสุข เป็นคลิปอัพเดทต่อจากบทความแรกๆ ที่ผมเล่าให้ฟังนะครับตอนที่น้องยังเล็ก ไม่ว่าจะเป็นการป้อนนม การให้ผลไม้ สามารถติดตามอ่านได้ที่นี่เลยครับ กับ “สายทาส cutie” ตอนแรก ๆ นะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น