บันทึกตามสาย

     คนจำนวนมากเชื่อเหลือเกินว่า ไพ่ทาโรต์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ โดยเฉพาะไพ่ชุดไรเดอร์ เวท (Rider Waite) ที่เรียกกันว่าเป็นที่นิยมและรู้จักมากที่สุดในโลก เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ภาพวาดบนไพ่ทาโรต์สำรับ ไรเดอร์ เวท นั้น ถูกวาดและออกแบบโดยคุณพาเมล่า โคลแมน สมิธ (Pamela Colman Smith) แต่แรงบันดาลใจทั้งหมดนั้น มาจากคุณอาเธอร์ เอ็ดเวิร์ด เวต (Arthur Edward Waite) ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักไสยศาสตร์ชาวอังกฤษที่ศึกษาอย่างลึกซึ้งในเรื่องเวทมนตร์คาถาลึกลับ เขาต้องการสร้างสำรับไพ่ทาโรต์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทำนายและการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณ โดยภาพหน้าไพ่ทั้งหมด มุ่งเน้นไปที่สัญลักษณ์และความเข้าใจและสามารถตีความได้ตามสัญชาตญาณ มากกว่าการให้ความหมายในการทำนายแบบดั้งเดิมที่ปรากฎบนไพ่ทาโรต์รุ่นก่อนหน้านั้น อีกทั้งสำรับไพ่ยังได้รับอิทธิพลจากนักไสยศาสตร์ชาวฝรั่งเศสนามว่า เอลีฟาส เลวี (Eliphas Levi) เพื่อให้สอดคล้อง และสอดรับกับคำสอนเกี่ยวกับโหราศาสตร์จากภาคีลึกลับแห่งรุ่งอรุณสีทอง (Ordo hermeticus Aurorae Aureae) ซึ่งเป็นสมาคมลับที่มีการถือปฏิบัติเกี่ยวกับศาสตร์เวทมนตร์และอภิปรัชญาแห

       เมื่อกล่าวถึง #กุมารทอง หลายคนคงคุ้นชินกับตุ๊กตาปั้นรูปเด็กนั่งหรือยืน มีองค์ประกอบต่างๆ หลากหลายถือถุงเงินบ้าง ถืออาวุธบ้าง แต่ที่มาที่ไปของวัตถุบูชานี้ หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า มันคืออะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธนี่นะ แล้วใครริเริ่มสร้าง วัด? หรืออาจารย์ฆราวาส? วันนี้จึงมีเรื่องเล่าเคล้าตำนานมาฝากกันครับ      ต้นกำเนิดการสร้างกุมารทอง ถูกสืบทอดมาจากความเชื่อในศาสนาผีดั้งเดิมของไทย ต้องทำความเข้าใจทีละสเตปนะครับ ก่อนพราหมณ์และพุทธจะเข้ามามีบทบาทในสยามประเทศ ศาสนาผีอันเป็นรากฐานความเชื่อดั้งเดิมฝังรากในอารยธรรมขอมมาช้านาน หยั่งรากฝังลึก แฝงตัวอยู่ในหลากหลายวัฒนธรรมรวมถึงประเพณีบ้านเรา ถ้าจะกล่าวกันจริงๆ อารยธรรมอินเดียโบราณก็เป็นรากเหง้าลึกๆ ที่กลายพันธุ์ในอารยธรรมขอมทับซ้อนกันมาอีกทีเหมือนกัน ด้วยความเชื่อเกี่ยวกับภูติผีปีศาจแต่เดิมมานั้น ถูกสืบทอดมาเป็นลักษณะของผีเจ้าเข้าทรงและวัตถุอาถรรพ์สารพัดสิ่งอย่าง ปะปนกับคำสอนทางศาสนาที่ผลัดเปลี่ยนเวียนมาตามกาล ทั้งศาสนา นิกาย อารยธรรม และวัฒนธรรม และก็ดับเบิ้ลทับซ้อนมาเป็นพี่ไทยของไทยในทุกวันนี้      เมื่อกล่าวถึงวัตถุ

     ปัจจุบันคนหันมาสนใจศึกษาศาสตร์อักษรรูนกันมากขึ้น ถึงแม้จะมีคำกล่าวที่ว่า อักษรรูนเป็นสิ่งอาถรรพ์ และหากเข้าไม่ถึงจะเกิดอันตรายแก่ผู้ใช้ ซึ่งจากประสบการณ์แล้วผู้เขียนคิดว่า อาจเป็นความเข้าใจผิดวัตถุประสงค์ หรือต้นตำนานที่มีความพัวพันกับพิธีกรรมต่าง ๆ ของชาวนอร์ส ทำให้เกิดการกล่าวขานอย่างหวาดกลัวก็เป็นไปได้ และเมื่อทำการศึกษาอย่างจริงจังจึงค้นพบว่า อักษรรูนล้วนเชื่อมโยงกับธรรมชาติที่ก่อกำเนิดขึ้นรายล้อมตัวเราอย่างมหัศจรรย์ ดังนั้น ผู้ศึกษารูน จึงหมั่นฝึกสมาธิเพื่อเข้าถึงและเข้าใจหลักธรรมชาติเหล่านั้น เรียนรู้และดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมทำให้เกิดปัญญา และต้องปฏิบัติกิจวัตรประจำวันด้วยหลักคุณธรรม ขันติธรรม จึงจะสามารถเชื่อมต่อพลังรูนได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ในการศึกษาเวทมนตร์นอร์ส จะมียันต์อีกประเภทที่เราเรียกว่า Magical Staves ที่ปรากฎในรูปของลวดลายเส้นสายเชื่อมโยงกันในลักษณะต่าง ๆ ตรงส่วนนั้นขึ้นอยู่กับนักมายาศาสตร์ยุคโบราณที่ออกแบบเวทมนตร์และกำกับมาอย่างไร ด้วยจุดประสงค์ใด ส่วนใหญ่คนก็จะเลือกใช้แต่ยันต์ที่ให้คุณสมบัติเชิงบวกในเรื่องที่ต้องการ เช่น เสริมความรัก, การค้าขาย, โชคลาภ เป็นต้