เหตุผลที่ไพ่ยิปซีมีความแม่นยำ และได้รับความนิยมจากทุกมุมโลก
เรื่องราวความแม่นยำของไพ่ทาโรต์ หรือที่เรียกติดปากในหมู่คนไทยว่าไพ่ยิปซีนั้น เกิดจากการที่ชาวยิปซีผู้เร่ร่อนในยุโรป ได้หยิบเอาไพ่ที่เป็นเกมส์การ์ดในอิตาลี่ เรียกว่า "ทาโรคกี" Tarocchi มาใช้ในการทำนายแทนลูกแก้ว และผลปรากฎว่าแม่นยำจนเป็นที่ยอมรับของราชวงศ์ฝรั่งเศสนับแต่อดีต จนต่อมาเมื่อภาพวาดศิลปะบนหน้าไพ่ โดยฝีมือของคุณพาเมลา โคลแมน สมิธ (Palmela Colman Smith) ประกอบกับความเชื่อทางด้านพิธีกรรมเวทมนตร์ที่บรรจุอยู่ในภาพวาด สืบเนื่องมาจากคุณอาเธอ เอ็ดเวิร์ด เวต (Arthur Edward Waite) หนึ่งในสมาชิกภาคีลึกลับแห่งรุ่งอรุณสีทอง สมาคมที่ถือปฏิบัติเกี่ยวกับศาสตร์เวทมนตร์และอภิปรัชญาแห่งยุคศตวรรษที่ 19-20 ไพ่สำรับไรเดอร์เวท ทาโรต์ จึงกลายเป็นตำนานกล่าวขานเรื่องความแม่นยำ และสามารถตอบได้ทุกสถานการณ์
- ไพ่มีจำนวนมากถึง 78 ใบ ทำให้สามารถครอบคลุมทุกคำถาม หรือสถานการณ์ที่แวดล้อมเจ้าชะตา
- การออกแบบหรือวาดภาพโดยศิลปิน ทำให้สื่อความหมายได้ลึกซึ้งมากขึ้น
- สมาธิของผู้ทำนายที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี
- ความเป็นกลางในการทำนาย ไม่เชื่อ ไม่เอนเอียง เพียงเพราะคำบอกเล่า
- ความเชื่อเรื่องหน้าไพ่สำรับไรเดอร์เวท มีการประจุพลังเวทมนตร์พยากรณ์ลงไป
แม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นที่ยอมรับก็จริง แต่นักพยากรณ์ไพ่ยิปซีส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่า ไพ่ยิปซีมีลักษณะที่แปลกในการทำนายคือ หากใช้ความคิดชักนำ ไพ่มักจะตอบไปตามความคิด หรือแม้กระทั่งการหยิบไพ่โดยไม่ใช้มโนภาพที่เป็นกลาง ไพ่ก็จะผิดเพี้ยนไปจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริง ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ล้วนเป็นทักษะที่นักพยากรณ์มืออาชีพพึงมี หากสามารถทำใจให้เป็นกลางไม่เอนเอียงหรือเข้าข้างเจ้าชะตาในคำถาม ประกอบกับการเปิดไพ่ทาโรต์ จะสามารถทำนายดวงชะตาได้อย่างแม่นยำและพิสูจน์ได้ด้วยตัวคุณเอง เพราะหากไม่แม่นยำ กลุ่มผู้ศึกษาไพ่ทาโรต์คงไม่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก
ไพ่ทาโรต์ หรือไพ่ยิปซีนั้น เป็นเพียงอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนายว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น หรือต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในบางเรื่อง ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าดวงชะตาเกิดขึ้นเพราะไพ่ แต่ไพ่เพียงแต่ตอบสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นเท่านั้น หลายคนจึงติ๊ต่างไปว่า ไพ่มีอาถรรพ์บ้างอะไรบ้าง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไพ่ยิปซีไม่ได้มีอาถรรพ์อะไร เป็นเพียงอุปกรณ์เวทมนตร์ประเภทหนึ่งของชาวยุโรปเท่านั้น และไพ่ ทำหน้าที่เพียงบอกสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นแก่คุณ เพื่อให้มีความสำรวมระวัง หรือคิดเผื่อสถานการณ์ก่อนเกิด หากมีสิ่งที่ดีเราก็เตรียมความพร้อมรับมัน หรือจะมีสิ่งที่ต้องระวัง เราก็เพิ่มสติ และความไม่ประมาทเป็นสองเท่า ดังนั้นนิยามของไพ่ยิปซี จึงได้รับการขนานนามว่า "ไกด์นำทางชีวิต"
ซึ่งตามหลักความจริง ชีวิตของเรา เรานั้นเป็นผู้กำหนดเสมอ ผู้เขียนมักจะบอกกับลูกศิษย์ในห้องเรียนพยากรณ์เสมอว่า หากเราวางแผนชีวิตไว้เช่นใด และเราเริ่มที่จะลงมือทำมันเมื่อไหร่ ดวงชะตาก็ผันเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เสมอ ดังนั้น หมอดูที่ทักว่า อีก 5 ปี หรือ 10 ปี ข้างหน้าจะเกิดเหตุบางสิ่ง บางอย่าง ในขณะที่เรากำลังจะเปลี่ยนแผนการดำเนินชีวิต แน่นอนว่าไพ่จะไม่แม่นยำ หรือไม่เป็นผลตามคำทำนายนั้น แต่หากเรายังย่ำอยู่กับที่ ไม่คิดเปลี่ยนตนเอง หรือมีงานประจำที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็มีโอกาสสูงที่ไพ่จะตอบสิ่งที่พึงเกิดขึ้นจริง ดังนัั้น หมอดูอาชีพหลายท่านที่ได้ศึกษาวิชาจากตำราของผู้เขียน จึงทำความเข้าใจในเรื่องนี้ และสามารถใช้ไพ่เพื่อทำนายอย่างเพิ่มพลสำเร็จ เป็นการเข้าใจ และเข้าถึงหลักการพยากรณ์ด้วยไพ่ยิปซีอย่างดีทีเดียว
การจะกล่าวว่า "หมอดูก็คู่กับหมอเดา" หรือ "ดูดวงงมงาย" หรือ "คนที่เชื่อหมอดูเป็นคนโง่" คำกล่าวเหล่านี้มีมานับแต่โบราณกาล แต่เมื่อใดก็ตามที่คนสิ้นหวัง หรือต้องการหาคำตอบสักเรื่อง คนที่เขาจะพึ่งพามากที่สุดก็คือหมอดู ดังนั้น ทักษะการอ่านดวงชะตาเพื่อเพิ่มพลังบวก และไม่น้อมนำให้คนถลำลึกไปสู่เรื่องที่งมงายเกินไป เป็นสิ่งที่นักพยากรณ์ต้องศึกษาด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น แนะนำให้คนไปสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา แก้กรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยฮีลใจในระยะสั้น แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาว การมีวิสัยทัศน์ที่ดี จึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่หมอดูพึงมี และการจะเป็นที่พึ่งที่ดี หมอดูต้องไม่ใช่เป็นเพียงหมอดู แต่ต้องเป็นผู้แสวงหาความรู้อย่างไม่สิ้นสุด เพราะคุณต้องพบเจอกับคนต่างอาชีพ ต่างจิตต่างใจ การทำนายแบบไม่ใส่ใจจึงเป็นการสร้างกรรมให้ตนเองไปโดยปริยาย
ถึงแม้ผู้ทำนายไพ่มืออาชีพ จะสามารถบ่งบอกชะตาชีวิตได้แม่นยำเพียงใด แต่ก็ไม่ควรหลุดกรอบที่กล่าวข้างต้น เราจึงควรใช้ไพ่ทำนายเพื่อเป็นไกด์นำทาง และปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตตามคำแนะนำที่เหมาะสม ไพ่อาจจะบอกแนวทางบางอย่างที่เราไม่ทันฉุกคิด หรือเป็นไอเดียบางอย่างที่ช่วยต่อยอดในหน้าที่การงาน หรือการดำเนินชีวิตให้เรียบง่ายขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ไพ่จะต้องเป็นที่พึ่งทุกอย่างที่เราอยากรู้ เช่น บางคนตั้งคำถามเพราะความพยายามที่จะรู้ว่า "อีกฝ่ายคิดอย่างไรกับตน" หรือ "เขามาหาเมื่อคืน เขาจะจริงจังกับฉันไหม" คำถามเหล่านี้เป็นการพยายามพึ่งพาสิ่งที่ไร้จุดหมาย และบ่อยครั้งที่ผู้เขียนเห็นว่า ไพ่ก็ตอบไปตามความพยายามอยากให้เป็นของผู้ทำนายตนเอง เป็นการใช้ทักษะการพยากรณ์แบบสุรุ่ยสุร่ายและไร้สาระเกินไป การดำเนินชีวิตด้วยองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่เราสามารถถามตอบได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการทำนายด้วยไพ่ยิปซีเลยแม้แต่น้อย ในฐานะที่คนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ จึงควรน้อมนำคำสอนที่ปฏิบัติได้มาใช้ควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ และเมื่อคุณเข้าถึง และเข้าใจ ศาสตร์พยากรณ์ไพ่ยิปซีจะไม่ใช่เรื่องงมงายไร้สาระเสียอย่างเดียว แต่อาจเป็นความได้เปรียบที่เราจะพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ของชีวิต ดำรงสติได้ดี เพิ่มคุณภาพชีวิตได้ดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน ขออวยพรให้กลุ่มผู้ศึกษาศาสตร์ทำนายไพ่ ยกระดับจิตใจตนเอง และใช้ไพ่อย่างถูกวิถีนะครับ
เล่มที่ 1 ปรับพื้นฐานจนถึงการฝึกทำนายแบบมืออาชีพ เล่มเดียวสามารถเป็นนักพยากรณ์ไพ่ทาโรต์ได้เลย ศึกษาจาก "คู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี The Tarot Guide"
เล่มที่ 2 ต่อยอดการใช้ไพ่ทำนายโชคลาภและตัวเลือกทางธุรกิจ การอ่านพลังงานธาตุจากใบหน้า, การอ่านพลังงานธาตุจากสถานที่ บ้านเรือน กิจการร้านค้า และวิธีปรับแก้ด้วยระบบธาตุแบบยุโรป (ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับฮวงจุ้ยตามที่ผู้ศึกษาบางท่านนำไปเผยแพร่) ศึกษาจาก "ไพ่ยิปซีชี้ทางรวย The Tarot Guide 2 Get Rich"
เล่มที่ 3 การใช้ไพ่ทาโรต์ทำนายระดับสูง การเข้าถึงจิตวิญญาณไพ่ การเชื่อมต่อพลังงานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การสื่อสารกับสิ่งลี้ลับ การอ่านไพ่โดยใช้การวิเคราะห์ธาตุเชิงลึกเพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์เพิ่มความแม่นยำ การเปิดไพ่สืบหาอดีตชาติ การตรวจพลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำกราฟเดือน ทายผลการแข่งขัน การออกแบบผังทำนายด้วยตนเอง พร้อมตัวอย่างอ่านไพ่เชิงวิเคราะห์เจาะลึกจนเห็นภาพ ศึกษาได้จาก "ศาสตร์ทำนายไพ่ยิปซีระดับสูง The Expert Tarot Guide"
ซึ่งตามหลักความจริง ชีวิตของเรา เรานั้นเป็นผู้กำหนดเสมอ ผู้เขียนมักจะบอกกับลูกศิษย์ในห้องเรียนพยากรณ์เสมอว่า หากเราวางแผนชีวิตไว้เช่นใด และเราเริ่มที่จะลงมือทำมันเมื่อไหร่ ดวงชะตาก็ผันเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เสมอ ดังนั้น หมอดูที่ทักว่า อีก 5 ปี หรือ 10 ปี ข้างหน้าจะเกิดเหตุบางสิ่ง บางอย่าง ในขณะที่เรากำลังจะเปลี่ยนแผนการดำเนินชีวิต แน่นอนว่าไพ่จะไม่แม่นยำ หรือไม่เป็นผลตามคำทำนายนั้น แต่หากเรายังย่ำอยู่กับที่ ไม่คิดเปลี่ยนตนเอง หรือมีงานประจำที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็มีโอกาสสูงที่ไพ่จะตอบสิ่งที่พึงเกิดขึ้นจริง ดังนัั้น หมอดูอาชีพหลายท่านที่ได้ศึกษาวิชาจากตำราของผู้เขียน จึงทำความเข้าใจในเรื่องนี้ และสามารถใช้ไพ่เพื่อทำนายอย่างเพิ่มพลสำเร็จ เป็นการเข้าใจ และเข้าถึงหลักการพยากรณ์ด้วยไพ่ยิปซีอย่างดีทีเดียว
การจะกล่าวว่า "หมอดูก็คู่กับหมอเดา" หรือ "ดูดวงงมงาย" หรือ "คนที่เชื่อหมอดูเป็นคนโง่" คำกล่าวเหล่านี้มีมานับแต่โบราณกาล แต่เมื่อใดก็ตามที่คนสิ้นหวัง หรือต้องการหาคำตอบสักเรื่อง คนที่เขาจะพึ่งพามากที่สุดก็คือหมอดู ดังนั้น ทักษะการอ่านดวงชะตาเพื่อเพิ่มพลังบวก และไม่น้อมนำให้คนถลำลึกไปสู่เรื่องที่งมงายเกินไป เป็นสิ่งที่นักพยากรณ์ต้องศึกษาด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น แนะนำให้คนไปสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา แก้กรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยฮีลใจในระยะสั้น แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาว การมีวิสัยทัศน์ที่ดี จึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่หมอดูพึงมี และการจะเป็นที่พึ่งที่ดี หมอดูต้องไม่ใช่เป็นเพียงหมอดู แต่ต้องเป็นผู้แสวงหาความรู้อย่างไม่สิ้นสุด เพราะคุณต้องพบเจอกับคนต่างอาชีพ ต่างจิตต่างใจ การทำนายแบบไม่ใส่ใจจึงเป็นการสร้างกรรมให้ตนเองไปโดยปริยาย
ถึงแม้ผู้ทำนายไพ่มืออาชีพ จะสามารถบ่งบอกชะตาชีวิตได้แม่นยำเพียงใด แต่ก็ไม่ควรหลุดกรอบที่กล่าวข้างต้น เราจึงควรใช้ไพ่ทำนายเพื่อเป็นไกด์นำทาง และปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตตามคำแนะนำที่เหมาะสม ไพ่อาจจะบอกแนวทางบางอย่างที่เราไม่ทันฉุกคิด หรือเป็นไอเดียบางอย่างที่ช่วยต่อยอดในหน้าที่การงาน หรือการดำเนินชีวิตให้เรียบง่ายขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ไพ่จะต้องเป็นที่พึ่งทุกอย่างที่เราอยากรู้ เช่น บางคนตั้งคำถามเพราะความพยายามที่จะรู้ว่า "อีกฝ่ายคิดอย่างไรกับตน" หรือ "เขามาหาเมื่อคืน เขาจะจริงจังกับฉันไหม" คำถามเหล่านี้เป็นการพยายามพึ่งพาสิ่งที่ไร้จุดหมาย และบ่อยครั้งที่ผู้เขียนเห็นว่า ไพ่ก็ตอบไปตามความพยายามอยากให้เป็นของผู้ทำนายตนเอง เป็นการใช้ทักษะการพยากรณ์แบบสุรุ่ยสุร่ายและไร้สาระเกินไป การดำเนินชีวิตด้วยองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่เราสามารถถามตอบได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการทำนายด้วยไพ่ยิปซีเลยแม้แต่น้อย ในฐานะที่คนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ จึงควรน้อมนำคำสอนที่ปฏิบัติได้มาใช้ควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ และเมื่อคุณเข้าถึง และเข้าใจ ศาสตร์พยากรณ์ไพ่ยิปซีจะไม่ใช่เรื่องงมงายไร้สาระเสียอย่างเดียว แต่อาจเป็นความได้เปรียบที่เราจะพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ของชีวิต ดำรงสติได้ดี เพิ่มคุณภาพชีวิตได้ดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน ขออวยพรให้กลุ่มผู้ศึกษาศาสตร์ทำนายไพ่ ยกระดับจิตใจตนเอง และใช้ไพ่อย่างถูกวิถีนะครับ
เนื้อหาบทความ เป็นส่วนหนึ่งของความรู้ในหนังสือ
"คู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี"
โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 3 ระดับ
เล่มที่ 2 ต่อยอดการใช้ไพ่ทำนายโชคลาภและตัวเลือกทางธุรกิจ การอ่านพลังงานธาตุจากใบหน้า, การอ่านพลังงานธาตุจากสถานที่ บ้านเรือน กิจการร้านค้า และวิธีปรับแก้ด้วยระบบธาตุแบบยุโรป (ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับฮวงจุ้ยตามที่ผู้ศึกษาบางท่านนำไปเผยแพร่) ศึกษาจาก "ไพ่ยิปซีชี้ทางรวย The Tarot Guide 2 Get Rich"
เล่มที่ 3 การใช้ไพ่ทาโรต์ทำนายระดับสูง การเข้าถึงจิตวิญญาณไพ่ การเชื่อมต่อพลังงานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การสื่อสารกับสิ่งลี้ลับ การอ่านไพ่โดยใช้การวิเคราะห์ธาตุเชิงลึกเพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์เพิ่มความแม่นยำ การเปิดไพ่สืบหาอดีตชาติ การตรวจพลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำกราฟเดือน ทายผลการแข่งขัน การออกแบบผังทำนายด้วยตนเอง พร้อมตัวอย่างอ่านไพ่เชิงวิเคราะห์เจาะลึกจนเห็นภาพ ศึกษาได้จาก "ศาสตร์ทำนายไพ่ยิปซีระดับสูง The Expert Tarot Guide"
👇👇👇สนใจสั่งซื้อสินค้าได้ที่นี่ครับ👇👇👇👇
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น