การทำบุญกับการขอพร เป็นคนละเรื่อง หนังคนละม้วน โดย อ.ไป๋ล่ง

 

     ในหัวข้อนี้อยากให้เข้าใจก่อนครับว่า บุญ กับ ขอพร เป็นคนละส่วนกัน บางคนเชื่อบทความในอินเทอร์เน็ตเช่น “หยอดเงินใส่ตู้แล้วให้รีบอธิษฐานขอพรเลยนะ เดี๋ยวแสงบุญจะพุ่งขึ้นไปเสียก่อน เราต้องรีบเก็บบุญให้ทัน” เสมือนบุญเป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่หากเก็บไม่ทันจะพุ่งขึ้นฟ้า แล้วไปรอให้เราใช้ชาติหน้า ผู้เขียนเคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง และถึงกับต้องนั่งเกาหัว เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยคำนวณบุญสักทีว่า มันควรจะเทียบเป็นค่าเงินบาทได้เท่าไหร่ หรือบุญมีอัตราแลกเปลี่ยนมากน้อยเท่าใดในสัมปรายภพ เพราะมันไม่มีประโยชน์กับชีวิตประจำวันเลยจริง ๆ ดังนั้น สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดคือ การที่ทำบุญไปแล้ว เราได้รับความรู้สึกอะไร อิ่มเอมแค่ไหน เรามีความสุขที่ได้ทำมากแค่ไหน บางคนไปกับเพื่อน อยากให้เครดิตตัวเองดูดีดูแพงกว่าเพื่อน งั้นใส่สักพันนึงแล้วกัน เกทับไปเลย พอคิดว่าใส่เงินเยอะ ก็ต้องได้พรดี ๆ จึงบรรเลงการขอพรพระอย่างพิถีพิถัน ขอนั่น ขอนี่ ขอเยอะแยะไปหมด สับสนในการทำทานยังไม่พอ ยังสับสนใจการขอพรเข้าไปอีก เละเทะไปหมด

เราลองมาจับหลักการแบบนี้นะครับ อาจจะพอให้สายมูทั้งหลายเห็นภาพมากขึ้น และเข้าใจบริบทของการทำบุญได้มากพอ

๑.) เวลาทำบุญ หรือจะปฏิบัติดีในส่วนใดตามแนวทางแห่งบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ก็ตาม (มีอธิบายในเนื้อหาถัดไป) ให้ทำจิตให้ว่าง ให้เอาใจใส่กับบุญที่ทำให้มาก ไม่ต้องห่วงเรื่องพร เพราะบุญนั้นติดตัวเราทั้งในภพนี้ ภพหน้า หรือตามมาจากภพอดีต

(อ้างอิงหลักความเชื่อทางพุทธศาสนาในเรื่องภพชาติ) บุญไม่ได้อยู่ในธนาคาร ไม่ได้ฝากใครไว้ แต่เป็นสิ่งที่ติดตัวเราตลอดเวลา ขับเคลื่อนไปตามลมหายใจของเราเสมอมา สำหรับบุญเก่าหรือบุญปัจจุบัน ก็ต่างกันตรงที่ว่า บุญเก่าจากอดีตชาติเราอาจจะระลึกถึงไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าเราทำอะไรมาบ้าง เราจำไม่ได้ นักปฏิบัติบางท่านจึงแนะนำแนวทางว่า ให้เปิดบุญก่อนนะ หรือ วิธีการเบิกบุญเก่ามาใช้ แล้วแต่ใครจะสร้างกุศโลบายแบบใด เพื่อชักนำจิตคิดไปตามบุญก็ว่ากันไป แต่สำหรับส่วนตัวผู้เขียนแล้ว อยากให้เราปล่อยวางมันลงครับ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องคำนวณให้ว้าวุ่นใจว่า “ชาติที่แล้วสงสัยฉันบุญน้อย เกิดมาชาตินี้จึงได้มีไม่เท่าเขา” หรืออะไรก็ตามที่พยายามไปจับปริมาณบุญ ซึ่งมันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เราจะมีบุญมากบุญน้อย มันจะไร้ประโยชน์ถ้าเราระลึกถึงบุญนั้นไม่ได้ ว่าเราทำอะไรมา ดังนั้น บุญในชาติปัจจุบันสำคัญที่สุด เราทำบุญอะไรไว้บ้าง หรือเราทำบุญอะไรอยู่ เป็นสิ่งที่เราต้องมีสติ จดจำ และการทำบุญให้ทำด้วยจิตที่เป็นกุศล เป็นกลาง เป็นความปลื้มใจยินดี อิ่มเอมที่ได้ทำ โดยในเนื้อหาถัดไป จะมีแนวทางการอธิษฐานจิตขณะทำบุญให้ได้ลองทดสอบด้วยการนำไปทำตามกัน แล้วรอดูผลด้วยตัวคุณเองนะครับ ว่าความสดชื่น อิ่มเอมในบุญ ความปีติยินดีนั้นได้มาโดยสะดวก และสบายใจมากแค่ไหน

๒.) ถ้าเราอยากขอพร แนะนำให้ขอพรกับเทวดาประจำวัด, เทวดาประจำเทวรูป, เทวดาประจำโบสถ์ วิหาร (รูปปั้นเทวดารอบ ๆ โบสถ์วิหารล้วนมีจิตวิญญาณแห่งเทวดาเบื้องล่างประจำอยู่ทั้งสิ้น), เทวดาประจำพระธาตุเจดีย์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ (เพราะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีการอัญเชิญเทวดาในพิธีพุทธาภิเษกเสมอ) หรือจะเป็นเทวดาหมู่ใดที่สถิตที่รูปปั้นพระพุทธในบ้านของเรา หรือเทวรูปในบ้านของเราก็สามารถทำได้ ถามว่าการขอพรขัดต่อหลักคำสอนทางศาสนาหรือไม่ ก็แน่นอนครับว่า “ใช่” พระพุทธองค์ไม่ส่งเสริม แต่ในทางการดำเนินชีวิตเชื่อเถอะว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรอบคอบและทบทวนกัน ดังนั้น “ถ้าจะขอพร ให้ขอนอกรอบ

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก
หนังสือ "สายมูต้องมนต์" เขียนโดย อ.ไป๋ล่ง

👇👇👇สนใจสั่งซื้อสินค้าได้ที่นี่ครับ👇👇👇👇

👇สามารถเข้ากลุ่มรับชมวิดิโอเกี่ยวกับสายมูฟรีที่นี่ครับ👇
หรือสั่งซื้อได้ที่

พูดคุยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่



ความคิดเห็น

คนชอบอ่าน

ความหมายของไพ่บุคคล “ควีน ออฟ วานส์” (QUEEN OF WANDS)

ความหมายของไพ่บุคคล “ควีน ออฟ เพนตาเคิลส์” (QUEEN OF PENTACLES)

ความหมายของไพ่บุคคล คิง ออฟ คัพส์ (KING OF CUPS)

ความหมายของไพ่ "เดอะ เวิลด์" (THE WORLD) สอนอ่านไพ่ยิปซี