พระพุทธรูปไม่ใช่ที่สถิตดวงจิตพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดย อ.ไป๋ล่ง
สายมูที่ไปตามวัดดังเพราะเชื่อในพลังศักดิ์สิทธิ์ มีจุดยึดเหนี่ยวมาจากอะไร ลองคิดตามนะครับ ทุกวันนี้เรากราบพระพุทธรูป เพราะเราเชื่อถึงการมีอยู่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในพระพุทธรูปใช่หรือไม่ เรากราบพระ เพราะเรามั่นใจว่าในพระพุทธรูปก็คือดวงจิต หรือดวงวิญญาณของพระพุทธเจ้าใช่หรือไม่ หากคำตอบคือ ”ใช่” เราคงต้องทบทวนพิจารณาใหม่ว่า มันอาจจะเป็นสิ่งที่ผิดหรือเปล่า เพราะมันย้อนแย้งระหว่างเรื่องการดับขันธปรินิพพานโดยสิ้นเชิง ข้อสันนิษฐานที่ดีที่สุดคือ ภายในพระพุทธรูปไม่ใช่ดวงจิตของพระพุทธเจ้า หากแต่ว่ากันตามความเชื่อที่ผู้เขียนค้นคว้าศึกษามาจากตำราโบราณเกี่ยวกับเรื่องของการตั้งสังขาร ภายในคือดวงจิตของเทวดาผู้มีบุญหรือกรรมสัมพันธ์ในการจัดสร้างพระพุทธรูปนั้น และนั่นต่างหากที่สถิตอยู่ เป็นแนวคิดที่ไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมบทสวดบูชาแต่ละองค์พระจึงแตกต่างกัน และมีความหมายแฝงเชิงขอพรสอดแทรกเข้าไปให้พร้อม อย่างที่เราคุยกันไปแล้วในหัวเรื่องก่อนหน้าที่ว่า “พุทธบูชา มหาเตชะวันโต” ข้าพเจ้าบูชาพระพุทธ ขอให้ข้าพเจ้ามีเดช หรือมีอำนาจมาก นั่นก็คือการสวดเพื่อบอกกล่าวเทวดาในเทวรูปว่า เราทำอะไร และขอให้เราได้รับอะไร ถึงตอนนี้หลายคนคงเข้าใจแล้วนะครับว่า เหตุและผลของการสร้าง การสวดนั้น มีที่มาที่ไปตามแนวคิดแบบนี้
ดังนั้นแล้ว หากท่านจะนมัสการพระรัตนตรัยก่อน แล้วจึงสวดบูชาตามแบบฉบับของทางวัดที่มีป้ายให้อ่านแบบนั้น เป็นแนวทางที่ไม่ส่งผลเสียครับ เพราะผู้สร้างเขากำหนดไว้แบบนั้น มีการพุทธาภิเษกมาแบบนั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมเทคนิคที่ผู้เขียนให้ไว้ในบทต้น ว่าก่อนจะขอพร เรามีบุญอะไรอุทิศก่อน จะมีโอกาสสำเร็จมากกว่า เอาเป็นว่า การกราบพระตามบทสวดบูชาประจำวัด ให้เป็นเสมือนการบอกกล่าวถึงการมาของเรา และแสดงความเคารพบูชาเป็นเบื้องต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น