ฝึกฟอกปราณ บริหารปอดและหลอดลม
ในสูตรการฝึกนี้ได้ลำดับขั้นตอนการฝึกไว้ทั้งหมด 7 ขั้น นั่นหมายความว่า คุณจะต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ขั้นแรกและไล่ไปตามลำดับ ซึ่งมันอาจไม่ตรงกับองค์ความรู้ที่คุณเคยศึกษามาก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่นัก เพราะเป็นสูตรที่ผู้เขียนทดลองเรียนรู้ด้วยตนเองมาพอสมควร ค้นหาคำตอบจากตำราเมืองไทยและต่างประเทศ ทำการศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ และสังเคราะห์ออกมาเป็นแนวทางที่สอดคล้องที่สุด จะว่าเป็นศิษย์หลายครูก็คงไม่แปลก เพราะทุกตำราคือครูของผู้เขียน แต่มันกลับได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม
(วิดิโอประกอบบทความ)
ถ้าฝึกบ่อยขึ้น นั่งบ่อยขึ้น ก็จะสามารถนั่งขัดสมาธิเพชรได้อย่างไม่ปวดไม่ตึง ซึ่งเป็นท่าร่างพื้นฐานในการฝึกปราณที่ดีมาก แต่ถ้าใครที่นั่งขัดสมาธิเพชร หรือแม้แต่จะขัดสมาธิก็ไม่ไหวจริง ๆ ไม่ใช่ปัญหา อนุโลมเป็นการนั่งบนเก้าอี้หรือม้าหินอ่อนได้ แต่ต้องระวังนิด ถ้าใครคิดจะนั่งขัดสมาธิบนโซฟานุ่มเพราะไม่เจ็บตาตุ่ม จะไม่ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างหนัก เนื่องจากฐานล่างขาดความสมดุล ถ้าจำเป็นต้องนั่งบนโซฟา สู้วางเท้าไว้ที่พื้นทั้งสองข้างให้ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นพอดี ไม่เขย่งปลายเท้า แบบนั้นก็ถือว่าใช้ได้ดีกว่า ถ้าจะขัดสมาธิกับผ้ารองนั่ง หรือเบาะรองนั่งนั่นก็ถือว่ากำลังดี
1.2 เมื่อได้ท่านั่งแล้ว สำคัญคือหลังต้องตรง เพื่อให้การหายใจสะดวกที่สุด และวางมือในลักษณะของ ฮาคินีมุทราในการฝึก โดยประสานมือไว้กลางหน้าอกของตนเอง
1.3 ปล่อยลมหายใจออกทางปากจนหมด จนกระทั่งท้องแฟบ รีดลมออกไม่ให้เหลือ รีดหน้าท้องให้แบนราบ
1.4 ดึงลมเข้าทางจมูกอย่างช้า สร้างจินตภาพว่า พลังจากสนามแม่เหล็กในห้วงจักรวาล กำลังหลั่งไหลเข้าสู่กลางกระหม่อม ไหลลึกลงไปพร้อมลมหายใจเข้าสู่ท้องน้อย (ขณะฝึกฟอกปราณไม่ต้องหลับตา)
1.5 ดึงลมหายใจตามขั้นตอนที่ 4 ไปให้สุดท้องน้อยแต่ไม่ต้องพยายามเกร็งจนท้องแข็ง เอาที่เหมาะสมสบายตัว บางคนฝืนเกร็งดึงลมจนเกินไป กักไว้นานเกินไปจะส่งผลทำให้หน้ามืด หรือชาบริเวณศีรษะ หรืออาจจะเสียดท้อง ติดขัด เนื่องจากเนื่องจากปกติไม่เคยหายใจลงสุด หรือได้บริหารกระบังลมมาก่อน จึงไม่ต้องหักโหม ทำเท่าที่ไหวเป็นไปอย่างช้า เมื่อดึงลมแล้วกักลมไว้ที่ท้องน้อยชั่วครู่ ประมาณ 3-5 วินาที เอาที่ร่างกายเราไหวและผ่อนคลายมากที่สุด ให้ทำตามที่ร่างกายต้องการ นั่นหมายความว่า ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป ทำแล้วสบายผ่อนคลายโล่งปอด
1.6 หลังจากกักลมไว้ตามข้อ 5 ให้ผ่อนลมหายใจออกทางปากอย่างช้า แผ่วเบา ผ่อนไปเรื่อย จนหมดหน้าท้อง และท้องแฟบเหมือนเดิม .ในขณะที่ผ่อนลมหายใจให้สร้างจินตภาพว่า พลังงานที่หลั่งไหลเข้ามาจากห้วงจักรวาลนั้น กำลังส่งออกไปพร้อมกับลมหายใจ ขึ้นไปบนศีรษะ และออกไปทางกลางกระหม่อม กลับคืนสู่ห้วงจักรวาล
1.7 ทำแบบนี้เป็นจำนวน 3-5 ครั้ง ก่อนการฝึกปราณจักระทุกประเภท เพื่อเป็นการปรับสภาพร่างกายให้พร้อมสำหรับการฝึกขึ้นต่อไป
ผลจากการฝึกขั้นที่ 1 : ร่างกายจะเบาขึ้น หายใจสะดวกขึ้น จะมีความรู้สึกวูบวาบที่จักระ 7 เป็นสัญญาณบอกถึงความพร้อมในการฝึกต่อ
“หมายเหตุ : อย่าลืมฟอกปราณบริหารปอดฯ สามรอบก่อนเริ่มต้น
การฝึกทุกท่วงท่า และปิดจบการฝึกจักระให้ทำทุกครั้ง”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น